ยางเป็นสิ่งสิ่งเดียวที่เชื่อมระหว่างรถกับพื้นถนน ยางจึงมีบทบาทที่สำคัญต่อรถคุณอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น สมรรถนะการควบคุม บังคับขับขี่ ความนุ่มสบาย ระยะเบรก หรือการประหยัดน้ำมัน ดังนั้นลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ยางที่มี คุณสมบัติแตกต่างกันด้วย
การขับขี่ในเมือง
คุณควรใช้ยางที่เหมาะสมกับลักษณะของถนนในเมืองนั้นๆ สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกยางสำหรับการขับขี่ในเมือง
- ระยะการเบรก
คุณควรเลือกยางที่มีระยะเบรกสั้นที่สุด (ทั้งถนนแห้งและเปียก) เพื่อให้คุณหยุดรถได้อย่างรวดเร็วหากพบสิ่งกีดขวางบนถนนอย่างกระทันหัน เช่น คนเดินถนนที่ไม่ระวังรถยนต์
- อายุการใช้งาน
สภาพการจราจรในเมืองมีความหนาแน่นและติดขัดอยู่ ตลอดเวลา ยางรถยนต์จึงต้องทำงานหนักจากการหยุดรถและการออกรถในสภาพการจราจรดังกล่าว อันส่งผลให้ดอกยางสึกจากการที่เนื้อยางถูกเสียดสีกับพื้นถนน ดังนั้น คุณควรเลือกยางที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- การประหยัดน้ำมัน
ยางที่มีแรงต้านทานการหมุนของล้อต่ำจะประหยัดน้ำมันได้ดีกว่ายางที่มีแรงต้านทานการหมุนของล้อสูง
คุณควรตรวจสอบยางรถยนต์อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ายางไม่มีลักษณะของการสึกที่มากกว่าปกติหรือผิดปกติ รวมทั้งไม่มีการบวมบริเวณแก้มยางด้วย
คุณควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง (รวมทั้งยางอะไหล่ด้วย) และควรทำการตรวจสอบในขณะที่ยางรถยนต์ยังเย็นอยู่
ยางที่มีความดันลมยางต่ำ จะเพิ่มระยะเบรกให้ยาวขึ้น และทำให้รถยนต์ใช้น้ำมันมากขึ้น
การขับขี่บนทางหลวงหรือทางด่วน
บุคคลโดยทั่วไปมักจะขับขี่รถยนต์บนทางหลวงหรือบนทางด่วนด้วยความเร็วสูง ซึ่งยางมีบทบาทสำคัญต่อการทรงตัวและสมรรถนะในการเกาะถนนของรถยนต์ รวมถึงการรักษาทิศทางการเคลื่อนที่ของ
รถยนต์ในสภาวะการขับขี่เช่นนี้
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกยางสำหรับการขับขี่บนทางหลวงหรือทางด่วน
- ระยะเบรก
คุณควรเลือกยางที่มีระยะเบรกสั้นที่สุด (ทั้งถนนแห้งและเปียก)
- ความนุ่มนวลในการขับขี่
คุณควรเลือกยางที่ให้ความนุ่มนวลในขณะขับขี่และเงียบสำหรับการเดินทางไกล
- การเกาะถนน
คุณควรเลือกยางที่มีสมรรถนะภาพสูง เพราะคุณลักษณะนี้จะทำให้ยางยึดเกาะถนนได้ดี
คุณควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง (รวมทั้งยางอะไหล่ด้วย) และก่อนการเดินทางไกลทุกครั้ง โดยให้คุณทำการตรวจสอบในขณะที่ยางรถยนต์ยังเย็นอยู่ หากคุณตรวจสอบความดันลมยางในขณะยางร้อนหรือผ่านการวิ่งมาแล้วเกินกว่า 2 กิโลเมตร ให้คุณเพิ่มความดันลมยางอีก 4 ถึง 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (0.3 บาร์) จากความดันลมยางปกติที่แนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์
ข้อควรระวัง : รถออฟโรดหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (รถ 4x4) จะมีระยะเบรกที่ไกลกว่าระยะเบรกของ
รถเก๋ง เนื่องจากน้ำหนักของตัวรถที่มากกว่ารถเก๋ง
รถสปอร์ต
หากคุณชื่นชอบการขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วสูงที่เพลิดเพลินสนุก สนาน (การขับขี่แบบสปอร์ต) คุณควรเลือกยางที่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงและตอบสนองต่อการบังคับ ควบคุมที่แม่นยำ นอกจากนี้ คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์และความความปลอดภัยบน ท้องถนนอย่างเคร่งครัด และหากคุณต้องการทดสอบความเร็วในการขับขี่ของคุณ คุณควรทดสอบในสนามแข่งที่มีความปลอดภัยเท่านั้น
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกยางสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต
- การเกาะถนน
คุณควรเลือกยางที่มีโครงสร้างฐานที่ดีและมีสมรรถนะเยี่ยม เพราะคุณลักษณะเหล่านี้จะทำให้ยาง
ยึดเกาะถนนได้ดี (ทั้งถนนเปียกและแห้ง)
- การทรงตัวของรถยนต์
คุณควรเลือกยางประเภทสมรรถนะสูง ซึ่งให้สมรรถนะการควบคุมทิศทางที่แม่นยำ (excellent directional precision) และทรงตัวในทางโค้งได้ดี
คุณควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง (รวมทั้งยางอะไหล่ด้วย) และก่อนการเดินทางไกลทุกครั้ง โดยให้คุณทำการตรวจสอบในขณะที่ยางรถยนต์ยังเย็นอยู่ หากคุณตรวจสอบความดันลมยางในขณะยางร้อนหรือผ่านการวิ่งมาแล้วเกินกว่า 2 กิโลเมตร ให้คุณเพิ่มความดันลมยางอีก 4 ถึง 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (0.3 บาร์) จากความดันลมยางปกติที่แนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์
นอกจากนี้ คุณจะต้องหมั่นตรวจสอบสภาพการสึกของยางอย่างสม่ำเสมอ
การขับขี่รถออฟโรด (หรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือรถ 4x4)
การเลือกใช้ยางที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกองค์ประกอบ หนึ่งนอกเหนือไปไปจากการฝึกฝนเทคนิคการขับขี่ เพื่อให้คุณขับขี่รถออฟโรดด้วยความสนุกสนานและปลอดภัย
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกยางสำหรับการขับขี่รถออฟโรด
การขับขี่ในเส้นทางออฟโรด (เส้นทางทุรกันดารที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ)
คุณควรเลือกยางที่มีความแข็งแรงและสามารถทนต่อการกระแทกและการฉีกขาดได้ดี เช่น ยางออล
เทอเรน (All Terrain) ซึ่งเป็นยางที่เหมาะสำหรับเส้นทางออฟโรดที่เป็นทางลูกรัง หรือการเข้าป่าในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูฝน
นอกจากนี้ คุณควรเพิ่มลมยางให้มีแรงดันลมในอัตราสูงสุดที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด เพื่อเพิ่มความสามารถของยางในการทนทานต่อการกระแทกในขณะที่คุณขับขี่รถยนต์ ด้วยความเร็วสูงในเส้นทาง
ออฟโรด หากลมยางอ่อน จะทำให้คุณไม่สามารถควบคุมรถยนต์ได้ และอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
การขับขี่บนพื้นทราย
คุณควรลดแรงดันลมยางลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยางในการยึดเกาะพื้นผิวเส้น ทางที่เป็นทราย เช่น หาดทราย หรือทะเลทราย โดยคุณสามารถลดแรงดันลมยางลงได้ตามระดับความยากลำบากในการ
ขับขี่บนเส้น ทางนั้น แต่ในขณะเดี่ยวกันคุณก็จะต้องลดความเร็วในการขับขี่รถยนต์ลงด้วย และเมื่อคุณได้ขับพ้นเส้นทางดังกล่าวแล้ว ให้คุณเติมลมยางกลับสู่ความดันลมปกติตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์
การขับขี่ในเส้นทางที่เป็นโคลน
คุณ ควรเลือกยางที่มีดอกยางขนาดใหญ่ เช่น ยางมัดเทอเรน (Mud Terrain) สำหรับการขับขี่ในเส้นทางที่เป็นโคลน เพราะดอกยางขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มความสามารถของยางในการยึดเกาะกับเนื้อดินใน โคลนได้เป็นอย่างดี จึงให้รถยนต์มีการขับเคลื่อนที่ดี
การลดแรงดันลม ยางออกบางส่วนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ใน เส้นทางที่เป็นโคลน เพราะจำทำให้ยางสลัดโคลนออกได้ดีขึ้น
คุณไม่ควรเร่งเครื่องอย่างกระทันหันในเส้นทางที่เป็นโคลน เพราะจะทำให้ยางสูญเสียแรงยึดเกาะและทำให้ล้อหมุนฟรีได้
เมื่อคุณได้ขับพ้นเส้นทางดังกล่าวแล้ว ให้คุณเติมลมยางกลับสู่ความดันลมปกติตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์
การขับรถลุยน้ำ
ให้คุณใช้ลมยางปกติ ขับช้าๆ และรักษาความเร็วให้คงที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดคลื่นน้ำหรือน้ำสาดกระจาย
คุณควรตรวจสอบความดันลมยางและสภาพของยาง (รวมถึงยางอะไหล่ด้วย)ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง และคุณควรนำถุงมือ สายลาก ที่ตักดิน รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น ที่ปั้มลม เกจวัดลมยาง แม่แรง และผ้าสำหรับรองปูนั่งไปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น