วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เทคนิคการขับข้ามน้ำ

เชื่อว่าออฟโรดเดอร์แทบทุกคนคงจะเคยมีประสบการณ์ผ่านมาแล้วบ้างไม่มากก็น้อยสำหรับทริปการขับข้ามลำน้ำ ซึ่งอาจจะกว้างบ้างแคบบ้างก็ตามภูมิประเทศ ทริปแบบนี้ความท้าทายอยู่ที่ความลึกของน้ำและความลาดชันของตลิ่ง รวมถึงความเชี่ยวของกระแสน้ำด้วยหากเป็นช่วงหน้าฝน ดังนั้นจึงมีข้อแนะนำเล็กน้อยที่ปฏิบัติได้ไม่ยากแต่เป็นกฏแห่งความปลอดภัยครับ เพื่อให้การเดินทางในทริปที่มีอุปสรรคเช่นนี้เป็นไปโดยตลอดรอดฝั่ง ข้อแนะนำ 5 ข้อดังนี้ครับ
ข้อที่ 1 ก่อนขับรถลงในน้ำ ให้ผูกผ้ายางหรือผ้าใบคลุมกระจังหน้าและอุปกรณ์ winch ไว้เสียก่อน เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปทำความเสียหายกับชิ้นส่วนกลไกของเครื่อง.

ข้อ 2 ควรพักรถเพื่อให้ส่วนต่างๆของรถเย็นลงก่อน การขับขี่รถลงไปในน้ำในขณะที่ส่วนต่างๆของรถยังร้อนอยู่นั้น จะทำให้เกิดความเสียหายกับส่วนต่างๆได้เช่น จานเบรค, ใบพัดลมหม้อน้ำบิดงอ, ระบบท่อไอเสียเสียหาย หรือแม้แต่เครื่องยนต์ก็อาจเกิดการเสียหายร้ายแรงได้.

ข้อ 3 ศึกษาสภาพของท้องน้ำก่อนจะข้าม แม่น้ำที่มีอัตราการไหลค่อนข้างช้ามักจะมีท้องน้ำลักษณะที่เป็นโคลนเลนอ่อน นิ่มและค่อนข้างลึก ทำให้ไม่สามารถขับขี่ผ่านไปได้โดยง่าย ซึ่งจะแตกต่าง กับแม่น้ำที่ไหลแรงมักจะมีท้องน้ำที่แน่นและแข็งกว่าเนื่องจากกระแสน้ำที่ แรงได้ช่วยพัดพาเอาตะกอนออกไปจากก้นแม่น้ำ ทำให้สามารถขับขี่ผ่านแม่น้ำที่มีลักษณะแบบนี้ไปได้โดยง่าย.
ข้อ 4 พึงระวังไว้เสมอว่า การขับขี่ในน้ำลึกๆจะทำให้บางส่วนของรถลอยขึ้น ซึ่งจะมีลดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนของรถทำให้ยากหรือไม่สามารถที่จะปีน ขึ้น ฝั่งที่เป็นโคลนเลนหรือหินชันในอีกฟากหนึ่งได้ ในกรณีนี้ท่านอาจจะต้องเปิดประตูรถให้น้ำเขามาภายในเพื่อลดการลอยตัวของรถ และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน และผ่านอุปสรรคต่างๆ จนสามารถขึ้นฝั่งอีกฟากหนึ่งได้ (แต่ต้องแน่ใจว่าท่านได้นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาไว้เปลี่ยนด้วยนะ

และ ข้อ 5 ในกรณีฉุกเฉิน หากท่านจำเป็นต้องขับถอยหลังข้ามน้ำที่มีความลึกนั้น ให้ขับ(ถอยหลัง)ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยไม่ต้องผ่อนคันเร่ง การทำเช่นนี้จะเพิ่มโอกาสให้ท่านข้ามน้ำไปได้สูงขึ้นเนื่องจากส่วนหลังของรถ แหวกกระแสน้ำจนเป็นช่อง และช่วยป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าไปในส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้ ***แต่ท่านจะต้องแน่ใจก่อนว่าพื้นที่ก้นแม่น้ำนั้นแน่น ไม่มีท่อนซุง หรือหินก้อนใหญ่ๆ ที่เป็นอุปสรรคให้รถติดได้ และต้องแน่ใจด้วยว่ามุมประชิดและมุมจากของรถท่านมากพอ ที่จะพาท่านขึ้นฝั่งตรงข้ามได้อย่างไม่ติดขัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น